5 บุคคลประวัติศาสตร์ฟรีแลนซ์ ผู้เปลี่ยนโลก
4 มกราคม 2560

 

คุณเชื่อหรือไม่ว่าบุคคลในประวัติศาสตร์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นอัลเฟรด โนเบล,  แอนดรู คาร์เนกี, วอลท์ ดิสนีย์, หรือ เรย์ คร็อค พวกเขาเหล่านั้นต่างเริ่มต้นชีวิตการทำงานจากการเป็นฟรีแลนซ์ ก่อนที่คำว่าฟรีแลนซ์จะเป็นที่รู้จักบนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ ด้วยการเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ และกลายมาเป็นผู้ที่บันทึกเรื่องราวบนหน้าประวัติศาสตร์ให้โลกได้จดจำในที่สุด แม้เส้นทางก่อนจะประสบความสำเร็จของพวกเขานั้นจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบก็ตาม แต่พวกเขาก็ผ่านมันมาได้อย่างงดงามในท้ายที่สุด

 

ในโอกาสที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ปีใหม่ FreelanceBay อยากให้เพื่อนๆ ได้ลองศึกษามุมมอง - แนวคิดในการทำงานของพวกเขา และเอาไปปรับใช้กับการทำงานของตัวเองกันดู เพื่อต้อนรับความสำเร็จใหม่ๆ ที่จะมาถึงในปี 2017 นี้เอง

 

เรย์ คร็อค (Ray Kroc) - การขาย/การตลาด

เรย์ คร็อค ผู้ก่อตั้งร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดส์ชื่อดัง "แมคโดนัลด์"

 

เชื่อหรือไม่ว่า เจ้าของร้านอาหารฟาสฟู้ดส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างแมคโดนัลด์นั้นเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายเช็ค (สาธารณรัฐเช็ค) ซึ่งก็คือ เรย์ คร็อค นั่นเอง โดยในช่วงระยะเวลาก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จนั้น เขาทำอาชีพเสริมทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขายถ้วยกระดาษ, ขับรถพยาบาล, ตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งขายส่วนผสมเครื่องดื่ม ด้วยงานต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านงานขาย และรู้วิธีที่จะทำให้มันเติบโตขึ้นได้ในอนาคต จนนำมาซึ่งความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของแมคโดนัลด์เช่นทุกวันนี้

 

ในค่ำคืนแห่งความสำเร็จนั้น เรย์ได้กล่าวว่า "ผมประสบความสำเร็จเพียงชั่วข้ามคืน แต่ช่วงระยะเวลากว่า 30 ปีนั้น ช่างเป็นค่ำคืนที่ยาวนานเหลือเกิน" เขาทำอาชีพขับรถพยาบาลตั้งแต่อายุ 15 จนอายุ 53 หลังจากนั้น เขาจึงเริ่มเดินหน้าเข้าสู่ธุรกิจอาหารฟาสฟู้ดส์อย่างเต็มตัว จนสร้างแบรนด์ฟาสฟู้ดส์ชื่อดัง แมคโดนัลด์ มาจนถึงทุกวันนี้

 

วอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) - ถ่ายภาพ/ออกแบบ

วอลท์ ดิสนีย์ ผู้ก่อตั้งวอลท์ ดิสนีย์ พิกเจอร์

 

"ทุกความฝันสามารถเป็นจริงได้ ถ้าเรากล้าที่จะไล่ตามมัน" นี่คือคำกล่าวของผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่นชื่อดังก้องโลกอย่าง วอลท์ ดิสนีย์ เขาเริ่มวาดภาพและขายให้กับหมอเชอร์วู้ด เพื่อนบ้านที่เป็นสัตวแพทย์รักษาม้า และเขายังเป็นนักเขียนการ์ตูนให้กับหนังสือพิมพ์ของโรงเรียนอีกด้วย พออายุ 16 ปี เขาได้ลาออกจากโรงเรียนเพื่อสมัครเข้าร่วมกับกองทัพ แต่ก็ถูกกองทัพคัดออกเนื่องจากยังไม่บรรลุนิติภาวะ เขาจึงเลือกที่จะเข้าร่วมกับกาชาดและเป็นคนขับรถพยาบาลในหลังสงครามฝรั่งเศส

 

หลังสงครามเขาย้ายกลับบ้าน และขายภาพวาดการ์ตูนการเมือง วาดการ์ตูนให้กับนิตยสาร หนังสือ และโรงหนัง แต่รายได้ของนักวาดการ์ตูนไม่ใช่อาชีพทำเงินมากนัก จนในที่สุดเขาได้งานเป็นนักออกแบบที่ Pesmen-Rubin Art Studio ที่นั่นเขาได้พบกับ Ubbe Iwerks ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Iwerks-Disney Commercial Artists แต่ธุรกิจก็ไม่ประสบความสำเร็จ ถึงอย่างนั้นวอลท์ก็ยังไม่ละความพยายาม เขาได้ใช้โรงรถเป็นสตูดิโอวาดภาพ แต่ก็ผิดหวังอีกเช่นเคย เขาจึงต้องกลับไปรับงานถ่ายภาพเพื่อหาเงินให้มากพอที่จะไปฮอลลีวูด ด้วยความช่วยเหลือจากพี่ชาย ในความพยายามครั้งที่ 3 จึงเกิดสตูดิโอการ์ตูนชื่อดังที่ชื่อว่า "ดิสนีย์ บราเธอร์ส สตูดิโอ" ในที่สุด

 

อัลเฟรด โนเบล (Alfred Nobel) - นักออกแบบผลิตภัณฑ์

อัลเฟรด โนเบล ผู้ผลิตระเบิดไดนาไมต์ และผู้ก่อตั้งรางวัลโนเบล

 

ไม่มีใครไม่รู้จักอัลเฟรด โนเบล ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ผลิตระเบิดไดนาไมต์ หลังจากที่เขาล้มลุกคลุกคลานอยู่เป็นเวลานาน เขาก็กลายเป็นที่จับตามองหลังจากการประชุม Ascanio Sobrero ในฐานะนักเคมีที่สามารถผลิตไนโตรกลีเซอรีนขึ้นมาได้ เขาพยายามขายสารที่ใช้ในการสร้างวัตถุระเบิด แต่ก็ล้มเหลว เขาจึงเดินหน้าวาดกระบวนการสร้างมันและจดสิทธิบัตร จนในปี 1867 ถึงเริ่มขายได้ในที่สุด

 

ในช่วงชีวิตของเขา ได้มีการจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ในสาขาสรีรวิทยา, ไฟฟ้าเคมี และชีววิทยากว่า 355 ฉบับ และการออกแบบคิดค้นของเขาก็ยังเป็นต้นแบบมาจนถึงทุกวันนี้ เช่นจรวดระเบิด หลังจากเขาเสียชีวิต จึงได้มีการมอบรางวัลเพื่อเป็นการยกย่องสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่สร้างประโยชน์ให้แก่มวลมนุษยชาติ ก็คือรางวัลโนเบลนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบัน รางวัลโนเบลจะมอบให้แก่ผู้ทำคุณประโยชน์แก่มวลมนุษย์ในสาขาต่างๆ ได้แก่ สาขาเคมี การแพทย์ วรรณกรรม สันติภาพ ฟิสิกส์ และเศรษฐศาสตร์

 

เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ (Ernest Hemingway) - นักเขียนอิสระ

เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ผู้เขียนหนังสือ Three Stories and Ten Poems

 

เฮมิงเวย์ เป็นนักเขียนอเมริกันคลาสสิก เขาเริ่มต้นชีวิตการเป็นนักเขียนจากหนังสือพิมพ์โรงเรียน จนกระทั่งในปี 1916 บทความของเขาจึงได้รับการตีพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรก ภายใต้นามปาก Ring Lardner Jr. ตอนอายุ 18 เขาทำอาชีพขับรถพยาบาลเช่นเดียวกันกับ เรย์ คร็อค และวอลท์ ดิสนีย์ ต่อมาเขาได้ไปรบและได้เหรียญกล้าหาญ แต่ก็เกือบที่จะต้องสูญเสียขาไปจากสงครามครั้งนี้ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากกระสุนหลายแห่ง หลังจากนั้น เขาได้กลับบ้านและเป็นนักเขียนอิสระ บทความของเขาได้รับการตีพิมพ์ใน โตรอนโต สตาร์ รายสัปดาห์ จนในที่สุดเขาก็ได้รับรางวัลโนเบล สาขาวรรณกรรม จากนั้น เฮมิงเวย์ เริ่มทำงานเป็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศ หลังจากย้ายไปอยู่ปารีส เขาได้เขียนหนังสือเล่มแรกชื่อว่า "Three Stories and Ten Poems" ซึ่งถูกตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Contact Publishing

 

ชาร์ลส์ ดิกเคนส์ (Charles Dickens) - นักหนังสือพิมพ์/นักเขียนอิสระ

ชาร์ลส์ ดิกเคนส์ ผู้เขียนนวนิยาย The Pickwick Papers

 

ชาร์ลส์ เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในนักเขียนนวนิยายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา แต่ทว่านักเขียนนวนิยายผู้ยิ่งใหญ่ ชีวิตอาจจไม่ได้สวยงามเหมือนดังนิยายเสมอไป ขณะที่เขาอายุได้ 12 ปี ครอบครัวของเขาทั้งพ่อ แม่ และพี่ชายต้องติดคุก เนื่องจากหนี้สินที่ไม่มีจ่าย ทำให้เขาต้องโดดเดี่ยวเพียงลำพัง เขาอาศัยอยู่กับครอบครัวเพื่อนบ้าน ในห้องใต้หลังคา ต่อมาเขาลาออกจากโรงเรียนไปทำงานที่โรงงานไฟฟ้า เพื่อช่วยหาเงินมาชำระหนี้สินของครอบครัว ในที่สุดครอบครัวของเขาก็ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้า หลังจากที่คุณย่าของเขาเสีย พร้อมกับทิ้งมรดกไว้ให้จำนวนหนึ่ง

 

ขณะนั้นเข้ามีโอกาสได้ทำงานเป็นนักข่าวอิสระ โดยเขาได้ศึกษาจากญาติห่างๆ เขารายงานเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำทางกฎหมายในสังคม โดยบทความเรื่องแรกของเขาที่ถูกตีพิมพ์คือ "A Dinner at Poplar Walk" และบทความของเขายังถูกตีพิมพ์อย่างสม่ำเสมอในนิตยสารรายเดือนของลอนดอน

 

จากนั้น ชาร์ลส์ ก็กลายเป็นนักข่าวอิสระอย่างเต็มตัว จนในที่สุดก็ได้รับการทาบทามให้เขียนเรื่องสั้นประกอบภาพ ชาร์ลส์ ประสบความสำเร็จอย่างมากจากนวนิยายที่ขายได้มากกว่า 40,000 เล่ม และขึ้นเป็นบรรณาธิการนิตยสารวรรณกรรม แต่เขาก็ยังรับงานเป็นนักเขียนอิสระ รวมทั้งทำงานนิตยสารไปพร้อมๆ กัน

 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ 5 คนที่ FreelanceBay อยากให้เพื่อนๆ ได้ศึกษาชีวิตของพวกเขาไว้ รวมถึงนำแนวคิดบางอย่างมาปรับใช้ในการทำงานของตัวคุณได้ จะเห็นได้ว่าระหว่างเส้นทางไปสู่ความสำเร็จของแต่ละคนนั้นไม่ได้ง่ายเลย บางคนต้องใช้เวลากว่า 3 - 4 รอบของการล้มเหลว กว่าจะประสบความสำเร็จขึ้นมาได้ ฉะนั้นอย่าย่อท้อ ขอเพียงอดทนและตั้งใจทำในสิ่งที่รัก สักวันความสำเร็จย่อมมาถึงได้อย่างแน่นอน

กำลังเชื่อมต่อ