ในกระบวนการสรรหาว่าจ้างคัดเลือกคนให้เข้ามาทำงานนั้น ถือเป็นเรื่องน่าหนักใจสำหรับผู้ว่าจ้างไม่น้อย เนื่องจากการหาคนที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละคนนั้นล้วนมีความสามารถ รวมถึงความถนัดที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงเวลาที่มีอยู่จำกัด ทำให้ Portfolio มีบทบาทสำคัญในการคัดกรองความสามารถของฟรีแลนซ์ในเบื้องต้น และถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ฟรีแลนซ์ได้ หรือพลาดงานดีๆ ไปได้เลย

เพราะ Portfolio ที่ดี ย่อมสะท้อนถึงความสามารถของฟรีแลนซ์ และสามารถสร้างโอกาสในการได้งานที่สูงขึ้นได้ ซึ่ง FreelanceBay มีเทคนิคการสร้าง Portfolio ง่ายๆ 4 ข้อ มาฝากเพื่อนๆ กัน

1. อธิบายลักษณะงานของคุณ

การอธิบายลักษณะงานที่คุณถนัด เป็นสิ่งสำคัญในลำดับต้นๆ ที่ทำให้ผู้ว่าจ้างสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ในทันที และสามารถตัดสินใจได้ว่าควรจะจ้างคุณมาร่วมงานด้วยหรือไม่ ซึ่งยิ่งถ้าคุณสามารถอธิบายได้ชัดเจนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการได้งานของคุณมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ซึ่งควรจะอธิบายให้กระชับ ไม่สั้น ไม่ยาว และไม่เวิ่นเว้อจนเกินไป ก็จะสามารถสื่อสารให้ผู้ว่าจ้างเข้าใจว่าคุณสามารถทำอะไรได้บ้างนั่นเอง

2. มีความเป็นมืออาชีพ และเป็นตัวของตัวเอง

ด้วยความที่การจ้างงานฟรีแลนซ์นั้นมีความเสี่ยง และมีความน่าเชื่อถือน้อยกว่าการเลือกจ้างงานในรูปแบบบริษัท ความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ฟรีแลนซ์จะละเลยไม่ได้ ซึ่งการจัด Portfolio ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย อ่านง่ายสบายตา จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวคุณได้ ทั้งนี้การเป็นฟรีแลนซ์นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นทางการจ๋าแบบบริษัท คุณสามารถใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงไปได้ แต่อย่าให้หลุดกรอบมากจนเกินไปนัก ด้วยการผสมกันของสองสิ่งนี้ จะทำให้ Portfolio ของคุณดูมีสไตล์ สมาร์ท และดูแพงกว่าคนอื่นๆ เป็นไหนๆ

3. ใส่ข้อมูลติดต่อให้ครบถ้วน

อ้อยเข้าปากช้าง หมูเข้าปังตอ ผู้ว่าจ้างดู Portfolio ของคุณแล้วชอบ อยากจ้าง ต้องการติดต่อ แต่หาข้อมูลไม่ได้ นี่จบเลยนะกับความพยายามทั้งหมดที่ทำมา โถ่พ่อคุณเอ๋ย เรื่องง่ายๆ แค่นี้อย่าพลาดเลย แค่ลงเบอร์โทรติดต่อ อีเมล Facebook Line ID ให้ครบเพื่อให้ผู้ว่าจ้างสามารถติดต่อคุณได้ง่ายๆ เพราะถ้าหากลูกค้าไม่สามารถติดต่อคุณได้แล้วล่ะก็ เขาจะเปลี่ยนใจไปหาคนใหม่ทันที เสียโอกาสไหมล่ะ

4. อย่าลืมยืนยันตัวตน

อาจเป็นข้อเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายๆ คนมักจะมองข้ามไป แต่รู้ไหมว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากการยืนยันตัวตนนั้นคือการยืนยันสถานะการมีตัวตนของคุณ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับผู้ว่าจ้างได้ โดยการยืนยันตัวตนในเว็บไซต์ของเรานั้นก็มีขั้นตอนที่ง่ายมากๆ โดยการกดเลือกเมนู "ยืนยันตัวตน" ที่รูปโปรไฟล์มุมขวาบนของเว็บไซต์ กรอกรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ที่อยู่ (ที่สามารถติดต่อได้) รายละเอียดการจ้างคุณทำงาน ภาพถ่ายประจำตัวที่เป็นภาพจริง และอย่าลืม ส่งสำเนาบัตรประชาชนเข้ามาในระบบ พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ด้วย รอรับรหัส OTP หรือเลือกยืนยันเบอร์โทรศัพท์โดยให้เจ้าหน้าที่โทรไปหา กดยืนยันรหัส และทำการบันทึกข้อมูล เพียงเท่านี้การยืนยันตัวตนก็เป็นอันเรียบร้อย

ด้วยเทคนิคง่ายๆ 4 ข้อนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ว่าจ้างหันมาสนใจคุณได้แล้ว ที่เหลือนอกจากนี้ ก็คือการสร้างสรรค์ผลงานให้เข้าตาผู้ว่าจ้าง ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ฝีมือของแต่ละคนแล้วล่ะว่าจะสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้โดนใจผู้ว่าจ้างมากน้อยแค่ไหน ดังนั้นจงพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในเรื่องของการทำงาน และทักษะในการเจรจาต่อรองกับลูกค้า ด้วยสิ่งเหล่านี้ จะช่วยสร้างมูลค่าให้กับตัวคุณ ซึ่งจะทำให้คุณประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพฟรีแลนซ์ได้ในอนาคตอย่างแน่นอน