7 เหตุผลที่ทำให้ฟรีแลนซ์ว่างงาน และวิธีแก้ไข
8 สิงหาคม 2559

 

คงจะมีหลายๆ ครั้งที่เราตกอยู่ในสถานการณ์ว่างงาน, งานไม่เข้า, ลูกค้าหาย หรืออีกสารพัดสิ่งที่ทำให้เราให้เราไม่มีงานทำนั่นแหละ ทั้งๆ ที่ฝีมือในการทำงานของเราเองก็ไม่ได้อยู่ในขั้นที่เรียกว่าแย่ หรือจริงๆ แล้วอาจจะเหนือกว่าใครหลายๆ คนด้วยซ้ำ พอร์ตก็ดี โปรไฟล์ก็เริด แต่ ... นั่นแหละ ทำไมถึงไม่มีงานเข้า? นี่เราทำอะไรผิดไปรึเปล่า?

 

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์นี้ แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร FreelanceBay ได้รวบรวม 7 เหตุผลใหญ่ๆ ที่ทำให้หลายๆ คนเกิดอาการว่างงาน ให้คุณได้ลองสำรวจตัวเอง รวมถึงแนวทางในการแก้ไข ที่จะทำให้คุณมีงานเข้าได้ในอนาคต

 

1. ตอบข้อความช้าเกินไป

"ความไวเป็นของปีศาจ" คุณควรจำให้ขึ้นใจว่า ความรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญ ลองคิดเล่นๆ ดูก็ได้ ถ้ามีลูกค้ารายใหญ่กำลังมองหาฟรีแลนซ์ที่มีฝีมือโดดเด่นมาช่วยงานด่วนๆ และเขาดันหาคุณเจอ แต่ๆๆ คุณดันไม่ได้ตอบกลับข้อความของเขาไปตอนนั้น คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น? เขาจะยังรอคุณอยู่มั้ย ก็คงไม่ (เว้นแต่ว่าเขาอยากได้คุณจริงๆ นั่นก็อีกเรื่อง) ในเมื่อมีคนอื่นๆ อีกตั้งมากมายที่สามารถทำงานแทนคุณได้ ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกค้าติดต่อเข้ามา คุณควรพร้อมที่จะติดต่อเขากลับในทันที หรืออย่างน้อยก็ให้เร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้นั่นแหละ

 

2. ราคาที่เสนอไม่น่าสนใจ

บ่อยครั้งที่คุณไม่ได้รับเลือกให้ทำงานในโปรเจคนั้น เป็นเพราะว่าราคาที่คุณเสนอไปนั้นไม่น่าสนใจ ลองนึกภาพเวลาที่ผู้จ้างกำลังหาฟรีแลนซ์ สิ่งที่เขาต้องการคงไม่ใช่คนที่เสนอราคาได้ต่ำที่สุดเพียงอย่างเดียว ยังมีปัจจัยอื่นที่พวกเขาหยิบขึ้นมาพิจารณาด้วย ไม่ว่าจะเป็นผลงาน บริการต่างๆ บริการหลังการขาย ฯลฯ หลังจากดูรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ผู้จ้างก็จะมาจัดอันดับ และถ้ามีคนใดคนหนึ่งที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันมากๆ จึงจะมาตัดสินที่ราคาในขั้นสุดท้าย จะเห็นได้ว่าการเสนอราคาให้ต่ำที่สุดจึงไม่ใช่วิธีที่ทำให้คุณได้งานจริงๆ สิ่งที่คุณควรทำคือเสนอบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด ในราคาที่สมเหตุสมผล

 

3. เสนอราคาต่ำเกินไป

ต่อเนื่องจากข้อ 2 หากคุณอาจคิดว่าการเสนอราคาที่ต่ำนั้นจะทำให้คุณได้งาน ขอให้เปลี่ยนความคิดด่วนๆ เพราะราคาย่อมสะท้อนถึงคุณภาพ และราคาต่ำไม่ได้ทำให้คุณได้งานเสมอไป (อาจจะได้ แต่ในระยะยาวไม่เวิร์ค และอาจทำให้คุณอัพค่าแรงได้ยาก) จงสร้างมูลค่าให้กับงานของคุณ ในราคาที่สมเหตุสมผลและสามารถแข่งขันกับคนอื่นได้ ซึ่งจะสร้างโอกาสได้ดีกว่าการเสนองานในราคาที่ต่ำ เพราะนอกจากจะทำให้คุณดูไม่มีราคาแล้ว ยังเป็นการตัดราคาเพื่อนในวงการอีก ซึ่งไม่ควรทำเลย

 

4. ทักษะการสื่อสารไม่ดี

ต่อให้คุณเป็นคนที่มีทักษะในการทำงานสูงลิ่ว ผลงานดี โปรไฟล์เริด แต่สื่อสารไม่เป็น สื่อสารไม่รู้เรื่อง ก็จบเหมือนกันนะ ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ตาม ลองเช็คตัวเองดูว่าที่คุณยังไม่ได้งานจากลูกค้า เป็นเพราะคุณสื่อสารรู้เรื่องรึเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการฟัง - พูด - อ่าน - เขียน เพราะการทำงานร่วมกันนั้นล้วนต้องสื่อสาร ต้องพูดคุยด้วยกัน ถ้าสื่อสารกันไม่รู้เรื่องก็ทำงานด้วยกันยาก ดังนั้นถ้าคุณยังติดปัญหาข้อนี้อยู่ จงแก้ไข ปรับปรุงและพัฒนาเสีย

 

5. ยังไม่ได้โปรโมทตัวเองมากพอ

การเป็นฟรีแลนซ์นั้นจะว่าไปแล้วก็เหมือนกับการเป็นเจ้าของธุรกิจนั่นแหละ เพียงแต่ว่าคุณต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว รวมถึงการขายและการตลาดก็เช่นกัน การเป็นฟรีแลนซ์ไม่เหมือนกับการเป็นพนักงานประจำตรงที่ไม่มีใครคอยป้อนงานให้เรา แต่เป็นคุณที่ต้องวิ่งเข้าหางานเองเพราะลูกค้าไม่ได้รู้จักตัวคุณ คุณต้องทำให้ลูกค้ารู้ว่าคุณมีดีอะไร มีบริการอะไรที่สามารถตอบสนองความต้องการให้กับผู้จ้างได้บ้าง เริ่มต้นง่ายๆ กับ www.freelancebay.com ที่ให้คุณสามารถสร้างโปรไฟล์ของคุณได้ฟรี

 

6. ขาดการติดต่อจากโลกโซเชียล

ในโลกยุคปัจจุบันที่ Social Network เข้ามามีบทบาทกับชีวิตเราอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือคนรู้จักรอบตัวเรา ต่างก็ใช้ Social Network กันทั้งนั้นอย่างน้อยก็ 1 อย่าง รวมถึงบริษัทหรือองค์กรของผู้จ้างเองก็ตาม Social Network จึงเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่ทำให้เราสามารถติดต่อกับคนอื่นๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าเป็นผู้จ้างด้วยแล้ว นี่เป็นเครื่องมือชั้นดีที่จะสามารถติดต่อ และสามารถแสดงความสามารถของเราให้เขารู้ ฉะนั้นอย่าละเลยที่จะเข้าไปใช้มันบ่อยๆ (แต่ก็อย่าใช้เพลินจนเสียการเสียงานล่ะ)
 

7. ยังพยายามไม่ "มากพอ"

ถ้าทุกข้อที่เขียนมาคุณทำได้ครบทุกข้อแล้วแต่ยังไม่ได้งานล่ะก็ คุณขาดอยู่แค่ข้อนี้ข้อสุดท้ายแล้วล่ะ นั่นคือ "ความพยายาม" นั่นเอง วิธีแก้ไม่ยากเลย ก็แค่พยายามให้มากขึ้นนั่นแหละ อุตส่าห์ทำได้หมดทุกข้อแต่ดันมาตกม้าตายที่ข้อนี้ช่างน่าเสียดาย เป็นฟรีแลนซ์มันไม่ได้สบายอย่างที่คุณคิดหรอกนะ ยิ่งเวลาที่ไม่มีลูกค้า งานไม่เข้า ยิ่งต้องพยายามให้มากขึ้นไปอีก ฉะนั้นสลัดความขี้เกียจทิ้งไปและออกไปวิ่งหาลูกค้าซะ

 
 

อย่ารอให้ความสำเร็จมารอตรงหน้า (เพราะมันไม่มีวันมาถึง) หมั่นสร้างโอกาสให้ตัวเองอยู่บ่อยๆ และพัฒนาตัวเองควบคู่ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นความสามารถต่างๆ ความคิด ทัศนคติ สิ่งเหล่านี้อาจดูเป็นเรื่องพื้นฐานก็จริง แต่อย่าละเลย เพราะในวันหนึ่งมันจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้คุณได้ในอนาคต และถึงตอนนั้นใครๆ ก็อยากวิ่งเข้าหาคุณให้คุณทำงานให้เองโดยที่คุณไม่ต้องวิ่งหาลูกค้าอีกต่อไป

อ่านบทความอื่นๆ ของ FreelanceBay

สมัครสมาชิก FreelanceBay

ติดตาม FreelanceBay จากช่องทางต่างๆ : Facebook | Twitter | Google+

กำลังเชื่อมต่อ