iPrice แพล็ตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ระดมทุนได้ 4 ล้านเหรียญฯ หวังตีตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
20 ธันวาคม 2559

 

ถือเป็นตลาดที่มีการแข่งกันสูงไม่น้อยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซที่นับวันมีแต่จะเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด iPrice แพล็ตฟอร์มเปรียบเทียบราคาสินค้าเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซจากประเทศมาเลเซีย ได้รับเงินลงทุน 4 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการระดมทุนรอบ Series A

 

โดยการระดมทุนนั้นได้รับการสนับสนุนจาก Asia Venture Group (AVG) และ VC รายอื่นๆ ที่มีการร่วมทุนกัน ได้แก่ Gobi Partner, DMP, Econa และ Starstrike Ventures โดยก่อนหน้านี้ iPrice นั้นได้รับเงินลงทุนไป 1.2 ล้านเหรียญฯ ในปีที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับเงินอีกจำนวน 550,000 เหรียญ ทำให้ธุรกิจสามารถเปิดตัวได้เมื่อช่วงต้นปี 2015 อีกด้วย

 

แนวคิดในการให้บริการของ iPrice นั้นมีจุดเริ่มต้นจากการต้องการเป็นศูนย์รวมของการช้อปปิ้งผ่านเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีผู้เล่นรายใหญ่เป็นเจ้าตลาดอยู่ เช่น Alibaba ที่เพิ่งเข้าซื้อ Lazada ไปเมื่อช่วงต้นปีด้วยมูลค่า 2 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของ Amazon หรือแม้แต่ในจีนเองก็ตามที่ Alibaba และ JD.com ได้ร่วมกันสร้างอาณาจักรอย่างยิ่งใหญ่ ในขณะที่ iPrice นั้นมีสต๊าฟเพียง 100 กว่าคน ซึ่งทำงานร่วมกับผู้ค้าปลีกรายย่อยเพื่อช่วยให้พวกเขามีตัวตน ช่วยเพิ่มยอดขายและจำนวนคนเข้าเว็บไซต์

 

ระหว่างที่ iPrice ได้เริ่มต้นธุรกิจในแนวทางของผู้รวบรวมสิค้าจากเหล่าผู้ค้ารายย่อย นาย David Chmelar ซึ่งเป็น CEO ของ iPrice ได้ระบุว่า iPrice นั้นเติบโตขึ้นได้จากการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ทั้งในฝั่งของผู้ขายและผู้ซื้อที่มีศักยภาพ สำหรับการเปิดตัวบริการใหม่ๆ ในอนาคต

 

"เราเริ่มต้นจากการค้นหาสินค้าของเราก่อน เรียนรู้วิธีการทำงานให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง แล้วจึงค่อยๆ ขยายตัวมันออกไปเรื่อยๆ เรายังตระหนักได้ว่าสิ่งที่เราครอบครองในวันนี้นั้นไม่ใช่ส่วนติดต่อของผู้ใช้ (front end) แต่เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ทำการแยกประเภทและถูกคัดกรองแล้ว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคนในภูมิภาคนี้ต่างหาก นอกจากนี้เรายังมองว่าตัวเราเองเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการค้นหาและเปรียบเทียบราคาสินค้า สำหรับคนที่ต้องการข้อมูลที่ดีที่สุด ทั้งในฝั่งของผู้ซื้อและผู้ขาย" นาย David กล่าว

 

ในด้านของการเงินแล้ว ด้วยการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้ iPrice สามารถเข้าใกล้จุดคุ้มทุนได้เร็วยิ่งขึ้น แม้นาย David จะไม่ได้ระบุถึงระยะเวลาดังกล่าวก็ตาม โดย iPrice นั้นต้องการเป็นเกตเวย์เชื่อมต่อของระบบค้าปลีกออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีสิ่งที่ยังต้องทำอีกมากมากเพื่อทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์เป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้บริโภค

 

เรียกได้ว่ามาแรงทีเดียวสำหรับ iPrice ที่จะเข้ามาตีตลาดในภูมิภาคนี้ ซึ่งในเมืองไทยเองก็มีเปิดให้บริการเช่นเดียวกัน ทำให้ในอนาคตเราอาจได้เห็นการแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภค ในการช่วยสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

กำลังเชื่อมต่อ