จิตวิทยากับการเลือกฟอนต์ในงานออกแบบ
4 มีนาคม 2564

 

ทำความรู้จัก “ จิตวิทยาฟอนต์ 

จิตวิทยาในการเลือกใช้ฟอนต์ในงานออกแบบ

 

 

 

เพื่อนๆอาจจะพบว่ามีหลายปัจจัยมากมายที่จะช่วยกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกในงานดีไซน์ ทั้งการเล่นสีสัน รูปร่าง และเค้าโครงต่างๆ เพื่อสร้างอารมณ์ความรู้สึกให้กับผู้ชม ทั้งให้ความรู้สึกมีความสุข หรือเศร้าไปจนถึงความตื่นเต้น แต่เรามักจะหลงลืมองค์ประกอบการออกแบบอยู่อย่างหนึ่งที่จะสามารถส่งผลกระทบต่ออามรณ์ความรู้สึกได้เช่นกันนั่นคือ ฟอนต์ หรือแบบอักษรนั่นเอง (Font)

 

กล่าวได้ว่าฟอนต์ที่เลือกใช้ในงานดีไซน์นั้นสามารถสร้างอารมณ์หรือเปลี่ยนมุมมองของผู้ชมที่มีต่อผลงานได้อย่างมากฉะนั้นคำกล่าวที่ว่าจิตวิทยาของฟอนต์นั้นทรงพลังจึงไม่ใชคำกล่าวที่เกินจริง

 

 

มาทำความรู้จักจิตวิทยาฟอนต์กัน

 

จะเห็นได้ว่ามนุษย์เรามีความรู้สึกต่อฟอนต์แต่ละแบบแตกต่างกันการทำความเข้าใจในความแตกต่างความเชื่อมโยงของอารมณ์ที่ตอบสนองต่อฟอนต์ และการเลือกใช้ฟอนต์อย่างไรให้เป็นประโยชน์ นั่นคือเรื่องของจิตวิทยาฟอนต์นั่นเอง

 

 

แล้วจิตวิทยาฟอนต์สำคัญอย่างไรล่ะ?

 

 

ภาพจาก  Type Tasting

 

 

หนึ่งในเหตุผลหลักที่คุณควรใช้หลักจิตวิทยาของฟอนต์เป็นเครื่องมือในงานดีไซน์เพราะจิตวิทยาของฟอนต์จะทำให้สามารถเลือกฟอนต์ได้เหมาะกับงานดีไซน์ และยังช่วยให้สามารถควบคุมการรับรู้ของผู้ชมได้อีกด้วยนะ

 

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณกำลังออกแบบโปสเตอร์เพื่อโปรโมทเสื้อผ้าเด็กที่กำลังจะออกใหม่และคุณต้องการให้ผู้ชมรู้สึกมีความสุขร่าเริงกับโฆษณาตัวนี้ คุณควรเลือกใช้ฟอนต์ที่มีลักษณะค่อยข้างจะเป็น whimsical script หรือ Graphic Font เพื่อช่วยสร้างอารมดังกล่าวให้ผู้ชมได้ ในขณะที่การเลือกใช้ฟอนต์ที่เป็น Serif ดั้งเดิมจะทำให้ไม่สื่อถึงความรู้สึกนั้น

 

สิ่งสำคัญก็คือ เมื่อคุณออกแบบแปลว่า คุณกำลังตั้งเป้าหมายว่าจะได้การตอบรับของผู้ชมในแบบที่คุณต้องการ

 

 

และเมื่อคุณมีความเข้าใจในเรื่องจิตวิทยาของฟอนต์แล้วนั้น คุณจะสามารถเลือกใช้ฟอนต์ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกและการตอบสนองตามที่คุณต้องการในงานดีไซน์ได้นั่นเอง

 

 

เลือกฟอนต์ผิดชีวิตเปลี่ยน

 

ถ้าคุณต้องการให้งานดีไซน์ตอบโจทย์ผู้ชม การเลือกใช้ฟอนต์ให้ถูกประเภทนั้น (โครต) จะสำคัญ  แต่การหลีกเลี่ยงการเลือกใช้ฟอนต์ผิดๆก็สำคัญเหมือนกัน เพราะการเลือกใช้ฟอนต์ที่ผิดย่อมสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์และอารมณ์งานดีไซน์คุณได้อย่างสิ้นเชิง และด้วยเหตุนี้จึงสามารถเปลี่ยนวิธีการตอบสนองของผู้ชมด้วยเช่นกัน

 

ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าคุณต้องการดีไซน์ cover facebook เพื่อโปรโมทบริษัทใหม่ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน โดยปกติแล้วธุรกิจประเภทดังกล่าวจะต้องสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความรู้สึกไว้วางใจและความมั่นคงให้กับผู้พบเห็น แต่คุณดันเลือกใช้ฟอนต์ในการออกแบบผิด อย่างเช่นการเลือกใช้ฟอนต์ที่มีลักษณะเป็น graphic หรือ script นั่นจะทำให้งานดีไซน์ของคุณไม่มีความเป็นทางการและดูไม่น่าเชือถือ ในทางกลับกันหากคุณต้องการดีไซน์ cover facebook เพื่อโปรโมทธุรกิจการฝึกอบรมส่วนตัว การเลือกใช้ฟอนต์ที่มีความดั้งเดิมอย่าง Serif นั้นจะไม่สามารถสื่อให้เกิดความรู้สึกน่าตื่นเต้นให้กับผู้ชมที่พบเห็นได้อยางตรงจุดประสงค์

 

 

แล้วจิตวิทยาฟอนต์ช่วยเพิ่มผลลัพท์จริงหรือ?

 

เหตุผลสุดท้ายที่จิตวิทยาฟอนต์นั้นสำคัญก็เพราะมันช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายของการออกแบบงานนั้น ทุกๆการออกแบบนั้นมีเป้าหมายเสมอ และการเลือกฟอนต์ที่นำพาอารมณ์ความรู้สึกที่ถูกต้องให้ผู้ชมมาได้นั้นเป็นแรงผลักอย่างยิ่งรุนแรงให้คุณไปถึงเป้าหมายนั้นได้

 

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณกำลังออกแบบบโพสเฟสบุ๊คเพื่อโปรโมทสินค้าถ้าเลือกฟอนต์ได้ถูกต้องฟอนต์นั้นจะทำให้โพสของคุณน่าสนใจและโพสนั้นอาจจะช่วยดึงเงินจากกระเป๋าของผู้ที่มองเห็นมันได้ หรือคุณอาจจะใช้ Instagram เพื่อโปรโมท การใช้ฟอนต์ตัวหนาไม่ได้แค่ช่วยให้โพสคุณโดดเด่นจากโพสอื่นเพียงอย่างเดียว แต่ยังจะช่วยสร้างความรู้สึกสนใจและอยากจะได้สินค้านั้นมาอยู่ในมือ

 

ไม่ว่าเป้าหมายการออกแบบจะเป็นอะไร การเข้าใจผลกระทบของฟอนต์ต่อผู้ชมผลของคุณจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในการออกแบบชิ้นงานและนี่ก็คือความทรงพลังของตัวอักษรนั่นเอง

 

 

ประเภทของฟอนต์และจิตวิทยาเบื้องหลัง

 

หลังจากที่ทำความรู้จักกับความหมายและรู้ถึงความสำคัญของจิตวิทยาของฟอนต์กันไปแล้ว คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักกับจิตวิทยาของฟอนต์ประเภทหลักที่เป็นที่รู้จักกันดี แต่ละฟอนต์นั้นจะมีผลกระทบต่อการตอบสนองต่อผู้ชมอย่างไรกันบ้าง

 

 

 

Serif (เซอริฟ) 

 

ภาพ Wells Fargo logo จาก  Wells Fargo Advisors

 

 

ฟอนต์ Serif เป็นฟอนต์ที่มีความ Classic สูงมาก เมื่อเราใช้ในงานออกแบบนั่นแปลว่าเรากำลังบอกผู้ชมว่าที่คุณเห็นคือธุรกิจที่มีความดั้งเดิม เชื่อถือเราได้

 

 

Serif คือ ฟอนต์ที่มีเชิงหรือจะเรียกว่าฟอนต์มีหัวในตัวอักษรไทย บางทีจะเรียนฟ้อนต์แบบนี้ว่าเป็นฟ้อนต์โรมัน (Roman) จุดเด่น ของตัวอักษรแบบนี้คือ การที่ตัวอักษรมีหัว มีเท้า ตัวอักษรมีความหนาบาง ไม่ต่างกันนัก

 

 

ภาพจาก  postprepress.com.au

 

 

และการใช้ Serif อาจจะนำไปสู่ความรู้สึกอื่นๆในงานดีไซน์ได้อีกเช่น

  • ความเชื่อใจ

  • ความน่านับถือ

  • ความมีอำนาจ

  • ความเป็นทางการ

 

ฟอนต์ประเภทนี้เหมาะกับธุรกิจที่เก่าเป็นแบรนดั้งเดิมอย่างมาก ตัวอย่างเช่น

  • ธุรกิจด้านการเงิน

  • ธรุกิจด้านกฎหมาย

  • ธุรกิจประกัน

  • ธุรกิจด้านการให้คำปรึกษา

 

 

 

 

 

Sans serif (แซนส์เซริฟ)

 

ภาพ  Google logo จาก  Google

 

ถ้านึกไม่ออกว่า Sans serif เป็นอย่างไร ให้นึกถึงฟอนต์ Serif ที่มีความใหม่กว่าและซับซ้อนสูงกว่า ฟอนต์นี้มันจะถูกมองว่ามีความดูดีมีสไตล์และทันสมัย และเพราะด้วยความที่ถูกใช้ในโลกเทคโนโลยีบ่อยๆ ทำให้ฟอนต์ Sans serif มีความหมายไปในทางความล้ำสมัยและก้าวทันโลกเทคโนโลยี

 

 

Sans serif คือ ฟอนต์ที่ไม่มีเชิงหรือจะเรียกว่าฟอนต์ไม่มีหัวในตัวอักษรไทย ฟอนต์ประเภทนี้อาจจะถูกเรียกว่าฟอนต์กอทิก (Gothic) เหมาะกับการนำไปใช้พาดหัวหรือหัวเรื่องที่เน้นความโดดเด่น ไม่เหมาะกับการเป็นเนื้อความ

 

 

ภาพจาก  postprepress.com.au

 

 

 และการใช้ Sans serif อาจจะนำไปสู่ความรู้สึกอื่นๆในงานดีไซน์ได้อีกเช่น

  • ความตรงไปตรงมา

  • ความทันสมัย

  • ความน่าเชื่อถือ

  • ความซับซ้อน

  • เน้นเทคโนโลยี

  • ความล้ำสมัย

 

ฟอนต์ประเภทนี้เหมาะกับแบรนด์ที่ต้องการให้งานดีไซน์ดูทันสมัยและโดดเด่นมีความซับซ้อน ตัวอย่างเช่น

  • ธุรกิจด้านเทคโนโลยี

  • ธุรกิจแบรนด์แฟชั่น

  • ธุรกิจสตาร์ทอัพ

 

 

ภาพจาก  canva.com

 

 

 

Script (สคริปต์)

 

ภาพ  The iconic Coca-Cola logo จาก  Coca-Cola

 

 

Script เป็นฟอนต์ที่มีความประณีตและมีรายละเอียดมากกว่าฟอนต์ประเภทอื่นๆ ให้ความรู้สึกหรูหรา มีระดับ และซับซ้อน ด้วยความที่ฟอนต์นี้พัฒนามาจากลายมือคน เลยทำให้สามารถเข้าถึงความรู้สึกคนได้มากกว่าประเภทอื่นๆ และสามารถทำให้ความรู้สึกสนุก แปลก หรือดั้งเดิมและเป็นของเก่าได้ สามารถใช้ script ฟอนต์ได้ในหลากหลายประเภทงานออกแบบ

 

 

Script คือ ฟอนต์ตัวอักษรที่เลียนแบบลายมือ ตัวเขียนให้ความรู้สึกไม่เป็นทางการ อิสระ เส้นสายของตัวอักษรให้ความรู้สึก สนุกสนาน ไร้กฎเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัว มักพบในงานดีไซน์ที่เน้นความหรูหราหรือแบรนด์ที่เกี่ยวกับผู้หญิง เพราะเป็นฟ้อนต์ที่มีความอ่อนช้อย สง่างาม หรูหรา และดึงดูดสายตาแต่ไม่ควรนำมาใช้กับการพิมพ์เนื้อความ

 

 

และการใช้ Script อาจจะนำไปสู่ความรู้สึกอื่นๆในงานดีไซน์ได้อีกเช่น

  • ความสง่างาม

  • ความซับซ้อน

  • ความแฟนซี

  • ความสร้างสรรค์

  • ความสนุก

  • ความดั้งเดิม

  • ความเป็นปัจเจก

  • ความแปลกตา

 

ฟอนต์ประเภทนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการทำแบรนด์หรืออุตสาหกรรมต่างๆที่ต้องการความหรูหรา แปลกตา และ/หรือ ต้องการความเป็นกันเอง ตัวอย่างเช่น

  • ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

  • ธุรกิจแบรนด์แฟชั่น

  • ธุรกิจที่เกี่ยวกับเด็ก

 

ภาพจาก  journeywithjess.com

 

 

 

ตัวอย่างของจิตวิทยาฟอนต์ในการใช้งานจริง

 

     หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับจิตวิทยาฟอนต์ทั้ง 3 ประเภทข้างต้นไปแล้วคราวนี้เรามาลองดูตัวอย่างจิตวิทยาฟอนต์ในการใช้งานได้จริงและลักษณะการใช้ฟอนต์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์ในงานออกแบบ

 

 

 -Happy- 

 

 

ภาพ  Branding design of Frosty's Ice Cream จาก  99designs designer green in blue

 

 

     จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นว่าแบรนด์ต้องการสื่อถึงความสุขของการกินไอศครีม ดังนั้นตัวเลือกฟอนต์ที่น่าสนใจในการนำมาใช้ออกแบบโลโก้แบรนด์จะต้องสื่อให้ลูกค้าอยากจะหยิบไอศครีมมากินเพราะเห็นโคนไอศครีมแล้วรู้สึกสนุก และแน่นอนว่าดาวเด่นหนึ่งในตัวเลือกคือการใช้ Script ฟอนต์ เป็นฟอาต์ลายมือที่ให้ความรู้สึก old-fashioned ย้อนรำลึกไปถึงความทรงจำเก่าๆที่มีความสุขในฤดูร้อนที่ผ่านมา และเมื่อรวมกับ Sans serif ฟอนต์แล้วทำให้ภาพรวมของงานดีไซน์ชิ้นนี้จะสามารถเรียกรอยยิ้มจากลูกค้าที่พบเห็นได้แน่นอน

 

 

 -Powerful- 

 

 

ภาพจาก  Cuba Gallery

 

 

     บางครั้งฟอนต์ที่ดูเรียบง่ายและตรงไปตรงมาก็ดูทรงพลังมากที่สุด อย่างเช่นในภาพตัวอย่างที่เป็นโฆษณาของแบรนด์ Nike ที่นักออกแบบได้เลือกใช้องค์ประกอบการออกแบบที่ดูโดดเด่น (bold) ได้อย่างสร้างสรรค์ รวมไปถึงการเลือกใช้สี blackground และภาพประกอบที่ดูโดเด่น รวมทั้งใช้ Sans serif ฟอนต์แบบตัวหนา ซึ่งทำให้ภาพรวมของภาพโฆษณาชิ้นนี้ดูทรงพลังและโดดเด่นจนเหมือนจะกระโดดออกมาดึงดูดความสนใจของผู้ที่พบเห็นได้เป็นอย่างดีทีเดียว

 

 

 -Authoritative- 

 

 

ภาพจาก  Ads of the World

 

 

     หากต้องการให้งานดีไซน์สามารถสร้างผลกระทบ (impact) และดูน่าเชื่อถือ การเลือกใช้ Serif ฟอนต์คือคำตอบ ดังเช่นตัวอย่างภาาพโฆษณาจาก The Guardian ที่ส่งข้อความที่ต้องการจะสื่อออกมาอย่างชัดเจนว่าเขาคือสื่อที่เป็นกลาง

 

 

 -Sad- 

 

 

ภาพจาก  ASPCA.

 

     การออกแบบบ้างครั้งก็ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความอบอุ่นหรือความสบายใจเพียงเท่านั้น การกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเศร้าก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมได้เช่นกัน ตัวอย่างจากโฆษณาของ American Society for the Prevention of Cruelty to Animals (ASPCA) ที่ผู้ออกแบบได้เลือกใช้ความเรียบง่ายและตรงไปตรงมาของ sans serif ฟอนต์ และใช้โทนสีที่ทึมๆที่เศร้าหมองเพื่อสื่งมอบความทรงพลังของข้อความที่ต้องการจะสื่อพร้อมกับภาพอุปมาอุปไมย

 

 

อย่าลืมลองใช้จิตวิทยาฟอนต์เพื่อประโยชน์ในงานออกแบบของคุณ

 

 

     การออกแบบงานทุกชิ้นจะต้องมีการใช้องค์ประกอบต่างๆมากมายในการสร้างสรรค์ผลงานนั่นรวมถึงฟอนต์ด้วย ถึงตอนนี้เพื่อนๆคงเข้าใจเรื่องจิตวิทยาฟอนต์กันบ้างแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ลองนำความรู้ที่ได้มาปรับใช้กับงานดีไซน์ชิ้นต่อไปของเพื่อนๆกันค่ะ :)

 

 

 

 

กำลังเชื่อมต่อ