เปิดใจ 2 ครูตีดาบบ้านระจัน ผู้ถ่ายทอดอัตลักษณ์ดาบวีรชนฯ สิงห์บุรีสู่สายตาชาวโลก
รายละเอียดงาน
เริ่มนับถอยหลังกันแล้วกับพิธีตีดาบวีรชนค่ายบางระจันสิงห์บุรี ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อแสดงให้ชาวไทยทุกคนมีโอกาสได้เห็น ได้รู้จัก ได้เรียนรู้ขั้นตอนและวิธีการตีดาบในแบบฉบับไทยโบราณของจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งดาบที่ได้จะถูกกำหนดให้เป็นอัตลักษณ์เฉพาะของสิงห์บุรี คือเป็นดาบทรงใบข้าวที่เหล่าวีรชนชาวบางระจันได้ใช้สู้รบกับข้าศึกเมื่อครั้งอดีตกาลที่ผ่านมา
ก่อนถึงวันงานเรามีโอกาสได้พูดคุยกับ 2 ช่างตีดาบระดับครูที่อยู่คู่กับอาชีพนี้มาอย่างยาวนาน ได้มาเปิดใจถึงความรู้สึกที่ได้รับหน้าที่อันทรงเกียรติเป็นผู้ตีดาบมงคลในพิธี ท่านแรกคงไม่ต้องเท้าความประวัติอะไรกันมาก เพราะเชื่อว่าชาวสิงห์บุรีเกือบทุกคนต้องรู้จักลุงตึ๋ง หรือนายเดือน เปียสงวน ช่าง
ตีดาบในตำนานแห่งบ้านบางระจัน ผู้ซึ่งกำค้อนทุบตีดาบมามากต่อมากจนนับไม่ถ้วนเป็นเวลากว่า 40 ปีจากจุดเริ่มต้นด้วยใจรัก ขวนขวายเรียนรู้กับพ่อตา รับการถ่ายทอดวิชาตีดาบมาจากรุ่นสู่รุ่นจนเป็นอาชีพสร้างตัวมาจนถึงทุกวันนี้
ลุงตึ๋งบอกว่าการตีดาบนั้น สำคัญต้องมีความรักในอาชีพ หากเกิดจากใจรักทุกอย่างก็จะง่ายและเรียนรู้ได้ไว เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ความใส่ใจ พิจารณากลั่นกรองให้ละเอียด เมื่อรู้ตัวว่าทางจังหวัดติดต่อมาให้เป็นหนึ่งในผู้ตีดาบมงคลครั้งนี้ ตนรู้สึกภาคภูมิใจและรู้สึกดีใจที่ยังมีคนสนใจและต้องการอนุรักษ์อาชีพนี้ไว้ให้ไปถึงรุ่นลูกหลาน การจัดงานในครั้งนี้นับเป็นการเผยแพร่ให้คนรู้จักวิชาตีดาบมากยิ่งขึ้น ให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่าสิงห์บุรียังมีอะไรดีอีกมากมาย ซึ่งนับเป็นการจารึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญอีกหน้าหนึ่งของชาวจังหวัดสิงห์บุรี
ท่านต่อมาที่จะได้ร่วมบันทึกภาพการตีดาบในครั้งนี้ คือครูลม หรือนายชะโลม พลอยกระจ่าง แห่งศูนย์การเรียนรู้ศาสตราวุธบ้านระจัน ย่านวัดตึก อำเภอเมืองสิงห์บุรี ครูลมเล่าให้ฟังว่า การได้รับเกียรติให้ร่วมตีดาบมงคลสร้างความดีใจให้ตนเป็นอย่างมาก เพราะชอบและรักในวิชาชีพนี้เป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว
จากความสนใจใฝ่รู้และมีความชอบในเรื่องของอาวุธอยู่เป็นทุนเดิมตั้งแต่เด็ก บวกกับมีโอกาสได้คลุกคลีกับช่างตีดาบทำอาวุธ รวมถึงเป็นคนชอบเที่ยวดูการจัดแสดงอาวุธโบราณต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพช่างทำดาบ เริ่มค้นหาตัวตนและคลุกคลีอยู่ในแวดวงอาชีพนี้ จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้วที่เดินอยู่บนถนนสายนี้ ซึ่งตนรู้สึกภูมิใจที่มีส่วนช่วยอนุรักษ์อาชีพไทยโบราณแขนงนี้เอาไว้มาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อจบการสนทนาเรารับรู้ได้ว่าผู้อาวุโสช่างดาบทั้งสองท่านต่างเห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ที่มีดำริให้จัดงานครบรอบ 125 ปี จังหวัดสิงห์บุรีขึ้น ทั้งสองมองว่าการจัดงานในครั้งนี้นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในรอบ 125 ปีของจังหวัดที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ดังนั้นทุกกิจกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของงาน ท่านผู้ว่ามีความตั้งใจจะปลุกจิตวิญญาณความเป็นตัวตนของคนสิงห์บุรีให้ตื่นขึ้น ให้ทุกคนรู้ถึงรากเหง้าที่มาของแผ่นดินเกิด พยายามประชาสัมพันธ์ความเป็นสิงห์บุรีให้ทุกคนได้ตื่นรู้ ร่วมกันค้นหาและสร้างสรรค์อัตลักษณ์เฉพาะสิ่งสำคัญของจังหวัด ส่งเสริมให้เกิดการสร้างรายได้กับชาวสิงห์บุรี และท้ายที่สุดคือสร้างภาพจำงานหวนรำลึกให้เกิดขึ้นในทุกๆ รอบปีอย่างต่อเนื่อง..
ก่อนถึงวันงานเรามีโอกาสได้พูดคุยกับ 2 ช่างตีดาบระดับครูที่อยู่คู่กับอาชีพนี้มาอย่างยาวนาน ได้มาเปิดใจถึงความรู้สึกที่ได้รับหน้าที่อันทรงเกียรติเป็นผู้ตีดาบมงคลในพิธี ท่านแรกคงไม่ต้องเท้าความประวัติอะไรกันมาก เพราะเชื่อว่าชาวสิงห์บุรีเกือบทุกคนต้องรู้จักลุงตึ๋ง หรือนายเดือน เปียสงวน ช่าง
ตีดาบในตำนานแห่งบ้านบางระจัน ผู้ซึ่งกำค้อนทุบตีดาบมามากต่อมากจนนับไม่ถ้วนเป็นเวลากว่า 40 ปีจากจุดเริ่มต้นด้วยใจรัก ขวนขวายเรียนรู้กับพ่อตา รับการถ่ายทอดวิชาตีดาบมาจากรุ่นสู่รุ่นจนเป็นอาชีพสร้างตัวมาจนถึงทุกวันนี้
ลุงตึ๋งบอกว่าการตีดาบนั้น สำคัญต้องมีความรักในอาชีพ หากเกิดจากใจรักทุกอย่างก็จะง่ายและเรียนรู้ได้ไว เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ความใส่ใจ พิจารณากลั่นกรองให้ละเอียด เมื่อรู้ตัวว่าทางจังหวัดติดต่อมาให้เป็นหนึ่งในผู้ตีดาบมงคลครั้งนี้ ตนรู้สึกภาคภูมิใจและรู้สึกดีใจที่ยังมีคนสนใจและต้องการอนุรักษ์อาชีพนี้ไว้ให้ไปถึงรุ่นลูกหลาน การจัดงานในครั้งนี้นับเป็นการเผยแพร่ให้คนรู้จักวิชาตีดาบมากยิ่งขึ้น ให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่าสิงห์บุรียังมีอะไรดีอีกมากมาย ซึ่งนับเป็นการจารึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญอีกหน้าหนึ่งของชาวจังหวัดสิงห์บุรี
ท่านต่อมาที่จะได้ร่วมบันทึกภาพการตีดาบในครั้งนี้ คือครูลม หรือนายชะโลม พลอยกระจ่าง แห่งศูนย์การเรียนรู้ศาสตราวุธบ้านระจัน ย่านวัดตึก อำเภอเมืองสิงห์บุรี ครูลมเล่าให้ฟังว่า การได้รับเกียรติให้ร่วมตีดาบมงคลสร้างความดีใจให้ตนเป็นอย่างมาก เพราะชอบและรักในวิชาชีพนี้เป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว
จากความสนใจใฝ่รู้และมีความชอบในเรื่องของอาวุธอยู่เป็นทุนเดิมตั้งแต่เด็ก บวกกับมีโอกาสได้คลุกคลีกับช่างตีดาบทำอาวุธ รวมถึงเป็นคนชอบเที่ยวดูการจัดแสดงอาวุธโบราณต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการประกอบอาชีพช่างทำดาบ เริ่มค้นหาตัวตนและคลุกคลีอยู่ในแวดวงอาชีพนี้ จากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลามากกว่า 20 ปีแล้วที่เดินอยู่บนถนนสายนี้ ซึ่งตนรู้สึกภูมิใจที่มีส่วนช่วยอนุรักษ์อาชีพไทยโบราณแขนงนี้เอาไว้มาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อจบการสนทนาเรารับรู้ได้ว่าผู้อาวุโสช่างดาบทั้งสองท่านต่างเห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ที่มีดำริให้จัดงานครบรอบ 125 ปี จังหวัดสิงห์บุรีขึ้น ทั้งสองมองว่าการจัดงานในครั้งนี้นับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในรอบ 125 ปีของจังหวัดที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ดังนั้นทุกกิจกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งของงาน ท่านผู้ว่ามีความตั้งใจจะปลุกจิตวิญญาณความเป็นตัวตนของคนสิงห์บุรีให้ตื่นขึ้น ให้ทุกคนรู้ถึงรากเหง้าที่มาของแผ่นดินเกิด พยายามประชาสัมพันธ์ความเป็นสิงห์บุรีให้ทุกคนได้ตื่นรู้ ร่วมกันค้นหาและสร้างสรรค์อัตลักษณ์เฉพาะสิ่งสำคัญของจังหวัด ส่งเสริมให้เกิดการสร้างรายได้กับชาวสิงห์บุรี และท้ายที่สุดคือสร้างภาพจำงานหวนรำลึกให้เกิดขึ้นในทุกๆ รอบปีอย่างต่อเนื่อง..
